ราคายางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ปี 2021-2022

ออกรถยนต์มาสักปีสองปี ถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ก่อนเวลาจะมาถึงด้วยประการต่างๆไม่ว่าจะเกิดยางบวม ยางรั่ว ยางแตกก็แล้วแต่ มาเช็คราคายางรถยนต์ที่ให้ความคุ้มค่า ราคาประหยัดสบายกระเปากัน

ราคายางรถยนต์

  1. Bridgestone

แบรนด์ผู้ผลิตยางรถยนต์ที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี Bridgestone มียางรถยนต์ให้เลือกหลากหลายประเภททั้งแบบธรรมดา, นุ่มนวล และสปอร์ต ส่วนยางประหยัดน้ำมันที่ขึ้นชื่อของ Bridgestone ได้แก่ ในรุ่นตระกูล Ecopia ยางที่ถูกออกแบบเพื่อช่วยให้รถประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะ แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ได้แก่

Bridgestone Ecopia EP300

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันคุณภาพเยี่ยม ที่ให้ความนุ่ม เงียบ ยึดเกาะได้ดีบนพื้นถนนแห้งและเปียก มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น Bridgestone Ecopia EP300 เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น Toyota Vios, Toyota Altis, Toyota Camry, Honda Jazz, Honda City, Honda Civic, Honda Accord Mazda 2 และ Mazda 3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,800 บาทมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 15-17 นิ้ว

Bridgestone Ecopia H/L001 

 

ยางรถยนต์ประสิทธิภาพรอบด้าน ทั้งความสามารถในการยึดเกาะถนนเปียก อายุการใช้งานที่นานกว่า การขับขี่ที่สบาย พร้อมทั้งความสามารถในการช่วยประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับรถ SUV และรถครอสโอเวอร์ เช่น Toyota C-HR, Mitsubishi Pajero Sport, Honda CR-V, Mazda CX-5 และ MG GS

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 4,400 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 15-20 นิ้ว
  1. Michelin

ยางรถยนต์ยี่ห้อดังที่มีผลิตภัณฑ์ยางหลากหลายชนิดให้เลือกใช้งานทั้งแบบสปอร์ต, คอมฟอร์ต, ธรรมดา และประหยัดน้ำมัน อย่าง Michelin Energy XM2+ ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่ผลิตจากเนื้อยาง Full Silica สูตรใหม่ ที่ให้ระยะเบรกที่สั้นกว่า ยึดเกาะถนนได้ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

Michelin Energy XM2+

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เนื้อยางสูตรใหม่ให้ความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้หน้ายางปรับสภาพและยึดเกาะพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ พร้อมให้ระยะเบรกที่สั้นกว่ายางทั่วไปถึง 1.5 เมตร เหมาะสำหรับรถเก๋งขนาดเล็กและขนาด

กลาง อย่าง Honda Jazz, Honda City, Honda Civic, Toyota Yaris, Mazda 2, MG 3 และ Mitsubishi Mirage

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,100 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-16 นิ้ว

Michelin Energy XM2

แม้จะเป็นรุ่นแรกของยางรถยนต์ประหยัดน้ำมัน แต่คุณภาพและสมรรถนะนั้นยังถือว่าใช้งานได้ดี ประหยัดน้ำมัน นุ่มนวล ให้การยึดเกาะได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง อย่าง Honda Jazz, Honda City, Honda Civic, Toyota Yaris, Mazda 2, MG 3 และ Mitsubishi Mirage

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 1,800 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-16 นิ้ว
  1. Yokohama

ยางรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมและมียางรถยนต์ให้เลือกใช้งานหลายประเภทด้วยกัน เหมาะสำหรับรถทุกชนิดทั้งรถยนต์ทั่วไป, รถยนต์ SUV และรถครอสโอเวอร์ ส่วนยางรถยนต์ก็มีทั้งแบบนุ่มนวล แบบสปอร์ต และแบบประหยัดน้ำมัน ที่มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่

Yokohama BluEarth GT AE51

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ เสริมความแข็งแกร่ง ช่วยให้การขับขี่ด้วยความเร็วสูงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยึดเกาะถนนได้ดี พร้อมด้วยเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของยาง และประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก, ขนาดกลาง และรถ SUV รถครอสโอเวอร์ เช่น Honda CR-V, Mazda CX-5, Honda City, Honda Civic, Toyota Yaris และ Toyota Camry

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,400 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-19 นิ้ว

Yokohama BluEarth ES ES32

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่ให้ความสมดุลในทุกด้าน ดอกยางและเนื้อยางพัฒนาใหม่แข็งแรงมากขึ้น ยึดเกาะได้ดีแต่ยังให้ความนุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น Honda City, Honda Civic, Toyota Yaris, Mazda 2 และ MG 3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,150 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว
  1. Dunlop
    แบรนด์มาตรฐานของผู้ใช้รถทั่วไป เนื่องจากหาซื้อง่าย และมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน อายุการใช้งาน การขับขี่ที่นุ่มสบาย มียางรถยนต์ให้เลือกหลากหลายสไตล์การขับขี่ ทั้งแบบสปอร์ต นุ่มเงียบ และยางรถยนต์ประหยัดน้ำมัน ที่มีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่Dunlop Enasave EC300
  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,290 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว

Dunlop Enasave EC300+

ยางประหยัดน้ำมันรุ่นแรกที่ให้ความคุ้มค่าเป็นอย่างดี โดดเด่นเรื่องการประหยัดน้ำมันและความทนทานในการใช้งาน เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดกลาง และรถยนต์ SUV บางรุ่น เช่น Honda City, Honda Civic, Honda HR-V, Toyota Yaris, Toyota Altis, Mazda 2 และ MG 3

ยางประหยัดน้ำมันรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม ให้ความสบายคุ้มค่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทานมากขึ้น เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดกลาง และรถยนต์ SUV บางรุ่น เช่น Honda City, Honda Civic, Honda HR-V, Toyota Yaris, Toyota Altis, Mazda 2 และ MG 3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,100 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว
  1. Goodyear

ยางรถยนตือีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก การยึดเกาะบนถนนที่เปียกได้ดี และมีความทนทานสูง Goodyear มียางรถยนต์ให้เลือกหลายประเภทตามสไตล์การขับขี่ ทั้งแบบสปอร์ต นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน มีให้เลือก 1 รุ่นย่อย ได้แก่

Goodyear Assurance Triplemax 2

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีไฮโดรเทรด มีการออกแบบลายดอกยางเป็นอสมมาตร เพิ่มสมรรถนะในการควบคุมทิศทาง และการยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมให้ความนุ่มนวล ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น Honda City, Honda Civic, Toyota Yaris, Mazda 2 และ MG 3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,200 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว
  1. Maxxis

ยางประหยัดน้ำมันคุณภาพดีและราคาไม่แรง Maxxis มียางรถยนต์ให้เลือกมากมายหลายประเภท ทั้งยางรถยนต์ธรรมดา ยางรถยนต์สมรถถนะสูงที่เหมาะกับการขับขี่แบบสปอร์ต และยางรถยนต์ประหยัดน้ำมัน ที่มีให้เลือกใช้งานทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่

Maxxis ME3 Mecotra ll

ยางประหยัดน้ำมันสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ใช้เทคโนโลยีการผลิตออกแบบขอบยางช่วยลดแรงต้าน ทำให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น Honda Brio, Honda Jazz, Honda City, Toyota Yaris, Toyota Yaris Ativ, Nissan Almera และ MG G3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 1,250 บาท มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 13-16 นิ้ว

Maxxis MA-P5 Mecotra

ยางรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีการออกแบบที่มีแรงต้านการหมุนที่ต่ำ ทำให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น Honda Brio, Honda Jazz, Honda City, Toyota Yaris, Toyota Yaris Ativ, Nissan Almera และ MG G3

  • ราคาเริ่มต้นที่ 1,300 บาท มีขนาดยางรองรับล้อขอบ 12-17 นิ้ว
  1. Otani

อีกหนึ่งยางรถยนต์คุณภาพดี ประหยัดน้ำมันและราคาไม่แรง ชื่อของ Otani หลายคนอาจคุ้นเคยกับยางที่ใช้กับรถบรรทุก แต่ปัจจุบันได้หันมาทำตลาดยางรถยนต์และรถอเนกประสงค์ ซึ่งก็มีประเภทของยางให้เลือกมากมายตามสไตล์ของการขับขี่ ยางประหยัดน้ำมันจาก Otani มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่

Otani EK1000 

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันสำหรับรถขนาดเล็กและขนาดกลางที่ได้รับการออกแบบดอกยางไม่สมมาตร ช่วยเพิ่มการยึดเกาะที่ดี ลดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี LNG พร้อมเนื้อยางแบบพิเศษที่ให้ความนุ่มนวลอย่างดี เหมาะกับรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาด

กลาง และรถยนต์ SUV บางรุ่น เช่น Honda City, Honda Civic, Honda HR-V, Toyota Yaris, Toyota Altis, Mazda 2 และ MG 3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 1,400 บาท มีขนาดยางรองรับล้อขอบ 13-18 นิ้ว
  1. Apollo

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันจากประเทศอินเดีย ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจในตลาดยางรถยนต์ Apollo มียางรถยนต์ให้เลือกใช้งานหลายชนิดตั้งแต่รถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ประเภทของยางก็มีหลากหลายแบบ ทั้งแบบนุ่มเงียบ สปอร์ต ขับเร็ว หรือแม้แต่ประหยัดน้ำมัน ที่มีให้เลือก 1 รุ่น ได้แก่

Apollo Alnac 4G 

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีการออกแบบลายดอกยางแบบอสมมาตร ช่วยรีดน้ำและเพิ่มการยึดเกาะได้ดีทั้งถนนเปียกและแห้ง รวมถึงการเข้าโค้งที่แม่นยำ พร้อมการลดเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสารอีกด้วย เหมาะกับรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และรถยนต์ SUV บางรุ่น เช่น Honda City, Honda Civic, Honda HR-V, Toyota Yaris, Toyota Altis, Mazda 2 และ MG 3

  • ราคาเริ่มต้นที่เส้นละ 2,100 บาท มีขนาดยางรองรับล้อขอบ 14-16 นิ้ว

สำหรับผู้ที่กำลังมองหายางรถยนต์เส้นใหม่ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของราคาและขนาดของยางรถยนต์แต่ละรุ่นได้ที่ผู้จำหน่ายอีกครั้ง และอย่าลืมว่า ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่พฤติกรรมการขับของแต่ละคนอยู่ดี และรวมถึงเรื่องอื่น ๆ อย่างเช่น การดูแลรักษาเครื่องยนต์ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก ที่ล้วนมีผลต่ออัตราการใช้น้ำมันทั้งสิ้น

  1. Lenso

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันจากประเทศไทย ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจในตลาดยางรถยนต์ lenso มียางรถยนต์ให้เลือกใช้งานหลายชนิดตั้งแต่รถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ OFF ROADประเภทของยางก็มีหลากหลายแบบ ทั้งแบบนุ่มเงียบ สปอร์ต ขับเร็ว หรือแม้แต่ประหยัดน้ำมัน ที่มีให้เลือก 1 รุ่น ได้แก่

Lenso Project D “D-One”

ยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีการออกแบบลายดอกยางแบบอสมมาตร ช่วยรีดน้ำและเพิ่มการยึดเกาะได้ดีทั้งถนนเปียกและแห้ง รวมถึงการเข้าโค้งที่แม่นยำ พร้อมการลดเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสารอีกด้วย เหมาะกับรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และรถยนต์ SUV บางรุ่น เช่น Honda City, Honda Civic, Honda HR-V, Toyota Yaris, Toyota Altis, Mazda 2 และ MG 3

  • ยางรถยนต์ขนาด 195/50R15 ราคา 1,950 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 195/55R15 ราคา 2,000 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 245/40R18 ราคา 3,500 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 245/45R18 ราคา 3,750 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 255/50R18 ราคา 4,000 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 255/55R18 ราคา 4,150 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 265/50R18 ราคา 4,600 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 265/50R20 ราคา 4,850 บาท
  • ยางรถยนต์ขนาด 275/40R18 ราคา 4,000 บาท

สำหรับผู้ที่กำลังมองหายางรถยนต์เส้นใหม่ สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของราคาและขนาดของยางรถยนต์แต่ละรุ่นได้ที่ผู้จำหน่ายอีกครั้ง และอย่าลืมว่า ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่พฤติกรรมการขับของแต่ละคนอยู่ดี และรวมถึงเรื่องอื่น ๆ อย่างเช่น การดูแลรักษาเครื่องยนต์ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก ที่ล้วนมีผลต่ออัตราการใช้น้ำมันทั้งสิ้น

ยางรถยนต์
ยางรถยนต์